หนังต่างประเทศ

รีวิวซีรีย์ The Witcher: Blood Origin

นักดาบเร่ร่อนผู้มีฝีมือดาบชั้นครู คนสุดท้ายของเผ่าเอลฟ์ Scían (รับบทโดย มิเชล โหย่ว) ได้ออกเดินทางเพื่อทวงคืนดาบศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าที่ถูกขโมยไป และทำให้ได้พบคำตอบของ Conjunction of the Spheres จุดเริ่มต้นที่ทำให้ 5 เผ่าพันธุ์ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียว

Blood Origin

The Witcher: Blood Origin หรือชื่อไทยว่า เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร: ปฐมบทเลือด ย้อนไปไกลกว่านั้น คือเป็นเรื่องราวเมื่อ 1,200 ปีก่อนเกิด Conjuction of the Spheres ซึ่งเป็นยุคทองของเผ่าพันธุ์เอลฟ์บนแผ่นดินแห่งมหาทวีป แต่ในช่วงดังกล่าวก็ไม่ใช่ยุคสมัยแห่งสันติภาพ

มีความขัดแย้ง สงคราม การฆ่าฟัน และการกระทำบางอย่างซึ่งก่อให้เกิดรอยแยกระหว่างมิติจนมีอสุรกายจากต่างโลกปรากฏตัว จากนั้นก็มีเอลฟ์กลุ่มหนึ่งหาทางจับอสุรกายเหล่านั้นมาใช้เป็นอาวุธ ตามด้วยเอลฟ์อีกกลุ่มที่หาทางดึงพลังจากอสุรกายมาใช้เพื่อสู้ตอบโต้กลุ่มแรก ซึ่งก็น่าจะเป็นต้นแบบของวิทเชอร์ในยุคหลัง อย่างไรก็ตาม ชื่อภาคแอบบอกใบ้อยู่กลายๆ ว่าท้ายที่สุดเรื่องราวน่าจะจบไม่สวย ซึ่งดูจากบริบทแล้วก็ทำให้พอคาดเดาได้ว่า การยุ่งเกี่ยวกับรอยแยกระหว่างมิติในซีรีส์นี้จะกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิด Conjuction of the Spheres ซึ่งนำพามนุษย์มาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เอลฟ์ในที่สุด

Blood Origin

 The Witcher คือโชคชะตาเป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยง และการได้รับรู้แต่เนิ่นๆ ว่าท้ายที่สุดเรื่องราวในภาค Blood Origin จะนำไปสู่จุดจบอันโชกเลือดของเผ่าพันธุ์ที่เป็นตัวละครหลักในเรื่อง เป็นความคิดที่ชวนหดหู่ไม่น้อย แต่ก็อย่างที่หลายคนพูดกันว่า บางครั้งจุดหมายปลายทางก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ก็ต้องรอดูกันครับว่าทั้ง 4 ตอนของมินิซีรีส์เรื่องนี้จะนำเสนออะไรมาหันเหความสนใจผู้ชมไปจากการตระหนักถึงโศกนาฏกรรมอันหดหู่ตามไทม์ไลน์ของซีรีส์หลักได้บ้าง

ติดตามข่าวสารหนังน่าดูได้ที่ movies.doodido.com

หรือ ดูหนัง ออนไลน์ได้ฟรีที่ moviesdoofree.com