รีวิวสปอยล์ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต 7.1 และ 7.2
Harry Potter and the Deathly Hallows
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ตอนท้ายของเรื่องราวและจุดจบของเหล่าผู้เสพความตาย นี่คือภาพยนตร์ที่ทุกคนตั้งตารอ Harry Potter ภาคสุดท้ายสร้างขึ้นโดยแยกออกเป็น 2 ภาคย่อย ที่จะเกี่ยวกับการทำลายเศษชีวิตของโวลเดอมอร์ โดยการตามหาฮอร์ครักซ์ทั้ง 7 ชิ้นเพื่อกำจัดมัน และนั่นเท่ากับว่าเป็นการกำจัดโวลเดอมอร์ให้สิ้นอีกด้วย
Harry Potter and the Deathly Hallows สงครามครั้งสุดท้ายระหว่างเจ้าแห่งศาสตร์มืดและผู้ถูกเลือก ในตอนแรกหรือ 7.1 เริ่มต้นในขณะที่แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ พวกเขาออกเดินทางสู่ภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตรายเพื่อแกะรอยและหาทางทำลายฮอร์ครักซ์ให้สิ้นซาก หลายเสียงต่างพากันชื่นชมตอนแรกของแฮร์รี่พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูตเพราะถือเป็นหนึ่งในภาคต่อที่สนุกสนานครบรส ไม่ว่าจะเป็นบทการเล่าเรื่องเอฟเฟคดนตรีประกอบความรักมิตรภาพความน่ากลัว รวมไปจนถึงมุขตลกที่มีมาให้อมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง งานนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเราเอาใจช่วยใคร ก็ต้องฝั่งแฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่แล้วล่ะ
ความลับของการเป็นอมตะและการทำลายล้างโวลเดอมอร์โดยลำพังที่ไร้ซึ่งคำชี้แนะของบรรดาอาจารย์ หรือการปกป้องจากศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เพราะเขาไม่ได้อยู่บนโลกอีกต่อไปแล้ว ทั้งแฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งสามต้องช่วยและพึ่งพากันและกันเพื่อทำลายล้างโวลเดอมอร์ แม้ว่าการเปิดเทอมที่จะมาถึงนี้จะเป็นการเรียนปีสุดท้ายของพวกเขาในฮอกวอตส์ แต่แฮร์รี่ก็คิดถึงแต่เรื่องการสานต่อภารกิจที่ดัมเบิลดอร์มอบหมายไว้ให้มากกว่า “ภารกิจพลีชีพ” ภารกิจที่เขาเองก็ไม่มีแผนการ และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาต้องตามหาอะไร รู้แค่มันคือ “ฮอครักซ์” เขาแค่ต้องตามหาและทำลายมันให้ได้ โวลเดอมอร์จะได้หายไปตลอดกาล
และในขณะนั้น โลกของพ่อมดแม่มดก็กลายเป็นแหล่งอันตรายสำหรับศัตรูทุกคนของโวลเดอมอร์ สงครามที่ใครๆ ก็ต่างหวั่นกลัวกันมานานก็ได้เริ่มต้นขึ้น บรรดาผู้เสพความตายของโวลเดอมอร์ก็ได้เข้ายึดครองกระทรวงเวทย์มนตร์และฮอกวอตส์เองก็ถูกยึดครองเช่นเดียวกัน ซึ่งเป้าหมายหนึ่งที่ผู้เสพความตายยังคงตามหาคือคนที่มีค่าที่สุดสำหรับโวลเดอมอร์ ไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้ถูกเลือก ซึ่งกลายเป็นผู้ที่ถูกล่า ในขณะที่เหล่าผู้เสพความตายค้นหาตัวแฮร์รี่ด้วยคำสั่งที่จะพาตัวเขาไปให้โวลเดอมอร์ทั้งเป็น โดยความหวังเดียวคือ การหาฮอร์ครักซ์ให้พบก่อนที่โวลเดอมอร์จะหาตัวเขาเจอ
ถัดมาในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต 7.2 โลกเวทมนตร์ปั่นป่วนและตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น เหล่าภาคีนกฟีนิกส์ที่ยังเหลือรอดต่างช่วยกันคุ้มครองแฮร์รี่ พอตเตอร์กันอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของพวกเขาเองก็ตาม หลังจากที่พวกแฮร์รี่ออกเดินทางตามหาฮอร์ครักซ์ทั้ง 7 ชิ้น และสามารถค้นพบและทำลายลงได้ โดยยังเหลือฮอร์ครักซ์ที่ยังไม่ถูกทำลายอยู่ 4 ชิ้น แต่สุดท้ายพวกแฮร์รี่กลับถูกผู้เสพความตายจับ แต่ก็สามารถหนีรอดมาได้โดยการสละชีวิตของด๊อบบี้ แฮร์รี่ล่วงรู้ถึงนัยยะสำคัญเกี่ยวกับฮอร์ครักซ์อีกชิ้นหนึ่งที่เขาคาดว่าถูกซ่อนไว้ในธนาคารกริงกอตส์ ธนาคารที่มีด่านป้องกันแน่นหนาที่สุด
พวกแฮร์รี่จึงวางแผนบุกเข้าไปเพื่อขโมย แต่ในขณะเดียวกันโวลเดอมอร์ล่วงรู้ว่าพวกแฮร์รี่กำลังตามล่าหาฮอร์ครักซ์อยู่ จึงยกกองทัพเหล่าผู้เสพความตายเข้าปิดล้อมฮอกวอตส์ ที่ซึ่งเขาซ่อนฮอร์ครักซ์อีกชิ้นไว้เพื่อดักรอ และครั้งนี้ไม่มีทางที่แฮร์รี่จะถอยอีกต่อไป เขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์ พร้อมด้วยกองทัพแห่งฮอกวอตส์และเหล่าผู้เสพความตาย โดยศึกครั้งนี้จึงเป็นศึกสุดท้ายที่มีโลกเวทมนตร์และโลกมนุษย์เป็นเดิมพัน
ก่อนที่จะไปดูตอนจบของหนังเรื่องนี้ เรามารู้จักกับคนแต่งเรื่องนี้กันบ้างดีกว่า เจ.เค.โรวลิ่ง ผู้แต่งวรรณกรรมเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ก่อนที่จะเกิดนิยายเรื่องนี้ เธอเป็นคนว่างงานจนวันหนึ่ง ขณะที่เธออยู่บนรถไฟระหว่างสถานีแมนเชสเตอร์ และคิงส์ครอสในลอนดอน โจแอนก็แว่บความคิดเกี่ยวกับเด็กกำพร้าผู้หนึ่ง ที่ภายหลังได้ค้นพบตัวเองว่าเขาคือ “พ่อมด” จากนั้นเรื่องราวต่างๆ ในหัวสมองได้ถูกถ่ายทอดลงบนกระดาษ เป็นลำดับขั้นตอนไปเรื่อยๆ จนเกิดมาเป็นนิยายเรื่อง “แฮร์รี่ พอตเตอร์ ” ขึ้น จากเล่มที่หนึ่ง “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์” ก็ทำให้แฮร์รี่ พอตเตอร์ ดังเป็นพลุแตกขึ้นมาทันที
และเล่มที่ 2-7 ก็เกิดขึ้นตามลำดับมาติดๆ จนปัจจุบันถ้าเราคิดเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์หนังสือของเธอรวมกันทุกเล่มแล้ว เธอจะมีทรัทพย์สินรวมถึง 2,000 ล้านบาท เรียกว่าเธอเป็นคนรวยที่ติดทำเนียบคนรวยที่สุดในอันดับที่ 122 ของอังกฤษเลยทีเดียว คราวนี้เรามาดูที่ผู้กำกับเรื่องนี้บ้าง สำหรับแฮร์รี่ พอตเตอร์ในภาคนี้เราได้ David Yates มากำกับให้ ซึ่งเดวิดเคยผ่านงานกำกับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาให้เราได้ชมกันแล้วถึง 3 ภาคด้วยกัน และอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ในรูปแบบหนังสือวรรณกรรมแต่ละตอนนั้น ความหนาของหนังสือเรียกว่าหนามากต้องเป็นผู้รักการอ่านจริงๆ และชื่นชอบเรื่องนี้ถึงทนอ่านได้
ปัญหาก็เลยมาตกอยู่ที่ผู้กำกับ ที่ต้องเอาเนื้อหาทั้งเล่มมาทำเป็นภาพยนตร์เพียงสองชั่วโมงกว่าๆ ให้ได้ ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้หมด เหมือนในแฮร์รี่ พอตเตอร์ในภาคที่ 4 ซึ่งทำเอาแฟนหนังสือบ่นกันใหญ่เกี่ยวกับเรื่องราวในตัวภาพยนตร์ขาดรายละเอียดสำคัญไปหลายช่วงหลายตอนเลย ทำให้ในภาคนี้ซึ่งถือเป็นภาพสุดท้ายเดวิดจำใจต้องตัดเป็นสองภาคเพื่อจะได้เก็บรายละเอียดให้เยอะที่สุด เพื่อให้ผู้ชมได้ซื้งกับบทสรุปของพ่อมดน้อยอย่างไม่มีวันลืม
“หนึ่งคนไม่อาจอยู่รอด หากอีกคนยังอยู่รอด” แล้วไปติดตามดูกันให้ตาแฉะกับ Harry Potter and the Deathly Hallows หรือแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต DooDiDo ขอการันตีความสนุกด้วยคะแนน 10/10 คะแนน
ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน
แหล่งที่มา : www.newmovie-hd.org, www.bailaan.com, www.sanook.com/movie/18869
