หนังต่างประเทศ

รีวิวหนัง ซูเปอร์ฮีโรหญิง Wonder Woman 1984

รีวิวหนัง ซูเปอร์ฮีโรหญิง Wonder Woman 1984 มีฉากหลังเกิดขึ้นในปีที่อยู่บนชื่อเรื่อง เพราะเป็นช่วงที่สังคมกำลังเข้าสู่การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวทางใหม่ๆ หลายอย่าง ไดอาน่า พรินซ์ ยังคงใช้ชีวิตอย่างโดดเด่นมาหลายทศวรรษ หลังจากที่สงครามโลกสิ้นสุดลงถึง 2 ครั้ง และดูเหมือนสงครามครั้งใหม่กำลังจะปะทุขึ้นจากความโลภของคนคนหนึ่ง อีกทั้งยังทำให้เธอได้เผชิญหน้ากับคนรักเก่าของ สตีฟ เทรเวอร์ อีกครั้งอย่างน่าประหลาดใจ

รีวิวหนัง ซูเปอร์ฮีโรหญิง Wonder

เรื่องย่อ หนัง Wonder Woman 1984

การกลับมาของ Wonder Woman ครั้งนี้ ยังคงได้ “กัล กาโดท” นักแสดงสาวสวยสุดแกร่งชาวอิสราเอล กลับมารับบท “ไดอานา พรินซ์” รวมทั้งพระเอกหนุ่ม “คริส ไพน์” ในบท “สตีฟ เทรเวอร์” ที่แม้จะสละชีพแบบสุดซึ้งไปในภาคแรก แต่ก็ยังกลับมาเคียงข้างแฟนสาวในภาคนี้เช่นเดิม สมทบด้วยสองตัวร้ายใหม่อย่าง “ชีตาห์” หรือ “บาร์บารา มิเนอร์วา” วายร้ายสุดเซ็กซี่ ที่รับบทโดย “คริสเทน วิก”  และ “เปโดร ปาสคาล” ในบท “แม็กซ์ ลอร์ด” ผ่านฝีมือการกำกับของผู้กำกับสาวฝีมือเยี่ยมเจ้าเก่า “แพ็ตตี้ เจนกินส์” ที่ทำผลงานเอาไว้ได้ดีมากๆในภาคแรก กวาดทั้งรายได้และเสียงชื่นชมจากผู้ชมทั่วโลก Wonder Woman 1984 เป็นเรื่องราวในสหรัฐอเมริกาช่วงยุค 80 ซึ่งก็เป็นเวลา 60 กว่าปีหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 ในภาคแรก ที่ ไดอานา หรือ วันเดอร์วูแมน ได้ยุติสงครามร่วมกับมวลมนุษยชาติ แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิตของ สตีฟ แฟนหนุ่มนักบินที่ตัดสินใจพลีชีพในสงครามดังกล่าว ทิ้งบาดแผลในใจฮีโร่สาว ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี เธอก็ยังคงโดดเดี่ยว และโหยหาชายผู้เป็นที่รักคนนี้อยู่เสมอ ไดอานา ในภาคนี้ ไม่ใช่สาวชาวแอมะซอน ผู้ไร้เดียงสาที่เพิ่งทำความรู้จักกับโลกใบใหม่อีกต่อไป หากแต่เป็นนักโบราณคดีสาวสุดเพอร์เฟกต์ ที่ซ่อนพลังมหัศจรรย์ไว้เบื้องหลัง ก่อนที่เธอจะได้รู้จักกับ บาร์บารา มิเนอร์วา เพื่อนร่วมงานสุดเปิ่น ผู้ถูกมองข้ามอยู่เสมอในสายตาคนรอบข้าง ซึ่งนำพาทั้งคู่ไปค้นพบพลังปริศนาที่เปลี่ยนชีวิตทั้งสองสาว พลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งพลังที่ว่านี้ ก็ยังไปพัวพันกับการกลับมาของ สตีฟ ที่ทำให้ไดอานาต้องตัดสินใจครั้งที่ยากที่สุดในชีวิต รวมไปถึงการก้าวสู่อำนาจ อันไร้ขีดจำกัดของ “แม็กซ์ ลอร์ด” นักธุรกิจสุดทะเยอทะยาน ที่พร้อมจะนำพาหายนะมาสู่โลกทั้งใบ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Wonder Woman 1984 เห็นจะเป็นส่วนของดราม่า ที่ผู้กำกับเลือกถ่ายทอดผ่านตัวละคร ไดอานา ผู้ซึ่งผ่านการสูญเสีย เติบโต และต้องเผชิญบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในชีวิตอีกครั้ง บทหนังให้ความสำคัญกับการบอกเล่าเรื่องราว ความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร ทั้งฮีโร่และวายร้าย ค่อยๆปูทางไปสู่งบทสรุปในตอนท้าย ที่อาจจะเรียกน้ำตาใครต่อใครได้หลายคน

รีวิวหนัง ซูเปอร์ฮีโรหญิง หลังดูจบ

ไดอาน่า ผู้มีชีวิตยาวนาน นานจนคนดูอย่างผมยังคิดว่า ช่างเป็นชีวิตที่น่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ ชีวิตที่อยู่เพื่อช่วยคนอื่นอาจจะเป็นชีวิตที่มีคุณค่ามีบุญสำหรับใครๆ แต่ชีวิตที่อยู่ด้วยการทำเพื่อคนอื่น แต่ตัวเองไม่เคยได้ความสุขส่วนตัวมาหล่อเลี้ยงยาวนานเช่นนั้น มันจะอยู่อย่างมีกำลังใจได้อย่างไร

จุดเด่น

กัล กาด็อต ความรื่่นรมย์ที่สุดของหนัง สวยทุกฉากทุกมุม คริสเต็น วิก เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับบท ดร.บาร์บารา มิเนอร์วา เปลี่ยนลุคเฉิ่มมาเป็นลุคเฉี่ยวได้ชัดเจน การเลือกฉากหลังเป็นยุค 80s ถือว่าสร้างบรรยากาศที่แตกต่างให้กับหนังซูเปอร์ฮีโรได้เป็นอย่างดี ฉากเปิดเรื่องสนุกที่สุด ถือว่าเป็นฉากแอ็กชันที่ลากยาวและแปลกใหม่ ใช้ประโยชน์จากความเป็นชาวเผ่าอะแมซอนได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่เห็นได้ชัด ความสวยของไดอาน่า ทุกๆ ช็อตที่เห็นบนจอ คนดูอย่างผมได้แต่รำพึงในใจว่า “สวยว่ะ” ตลอดเวลา ความหล่อเด๋อๆ ของสตีฟก็ทำให้รู้สึกว่า เออ เขาทำให้สองสิ่งมารวมอยู่ในคนๆ เดียวได้วุ้ย Gal Gadot เล่นบทดราม่าได้ดีทีเดียว เราสามารถน้ำตาไหลแทบสะอื้นให้กับนางได้โดยไม่ต้องเค้น นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ของพ่อลูกกับบทพูดในตอนท้ายนั้น จับใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เราที่ไม่ได้อินกับบทนี้ของ Pedro Pascal แต่กลับน้ำตาไหลได้ในฉากนั้น

จุดสังเกต

– ด้วยเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ของหนัง รู้สึกว่ายาวเกินไป

– หนังมีความเวอร์วังมากเกิน ทั้งอภินิหารของหิน อาวุธและพลังความสามารถของวันเดอร์วูแมนที่ไร้ซึ่งความสมเหตุสมผล

– ปริมาณฉากแอ็กชันน้อย และไม่ชวนลุ้น ส่วนใหญ่เห็นหมดแล้วในตัวอย่างหนัง

– วายร้ายด้อยพิษสง จัดการได้ง่าย ทำให้ระดับความสนุกของหนังลดลง

สรุป

Wonder Woman 1984 ไม่ได้เป็นหนังที่ย่ำแย่อะไรแต่อย่างใด เพราะหนังยังมีประเด็นที่แข็งแรง เพียงแต่หนังอาจจะเลือกใส่องค์ประกอบต่างๆ มาในจังหวะที่ยังไม่ค่อยลงตัวมากนัก และอาจจะยังไม่ตรงใจคนดูหนังที่มีวัตถุประสงค์หลักที่จะมาดูฮีโร่คนโปรดของพวกเขา แม้จะมีเรื่องราวและความที่ทรงพลังในภาคนี้ แต่ก็แอบน่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่ ยกระดับสาวน้อยมหัศจรรย์ เล่นใหญ่มากขึ้น ทั้งเนื้อเรื่องและประเด็นต่าง ๆ น่าสนใจ เสียดายฉากแอ็คชั่นและพลอตโฮล

ความยาวเท่าไหร่?

ความยาว: 151 นาที

หนังเป็นแนวประเภทไหน?

ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย

รับชมผ่านช่องทางไหน?

รับชมผ่านช่องทาง TrueID

ติดตามข่าวสารหนังน่าดูได้ที่ movies.doodido.com

หรือ ดูหนัง ออนไลน์ได้ฟรีที่ moviesdoofree.com

แหล่งที่มาเพิ่มเติม http://www.beartai.com

ขอบคุณแหล่งที่มารูปภาพ   ภาพที่ http://www.theatlantic.com 

                                              ภาพที่ http://www.theatlantic.com