HilightNetflixดูหนัง

รีวิว Netflix ซีรีส์ The Umbrella Academy

The Umbrella Academy ดิ อัมเบรลลา อคาเดมี่


The Umbrella Academy ซีรี่ส์จากเน็ตฟลิกซ์ที่รวมทีมซุปเปอร์ฮีโร่ทั้ง 7 คน โดย SS1 เข้าฉายทางช่องเน็ตฟลิกซ์ไปเมื่อปี 2019 และล่าสุด SS2 ก็ได้เข้ามาฉายให้แฟนๆ ได้ดูกันเป็นที่เรียบร้อย แรกเริ่มเดิมที ดิอัมเบรลลาอคาเดมี่คือคอมมิคของค่าย Dark Horse Comics ค่ายเดียวกับที่วางจำหน่ายเฮลล์บอยนั่นเอง

โดยก่อนที่จะมาเป็นซีรีส์ The Umbrella Academy ได้ถูกพยายามนำมาดัดแปลงให้เป็นภาพยนต์หลายครั้งต่อหลายครั้งมากๆ แต่ก็ไม่สำเร็จจนได้มาเป็น Original ของทาง Netflix และสตรีมมิงในขณะนี้ เรื่องราวว่าด้วยเหล่าพี่น้องหมายเลขหนึ่งถึงหมายเลขเจ็ดที่ถูกเลี้ยงมาโดยเศรษฐีที่ชื่อว่า เรจินัลด์ ฮาร์กรีฟ จากนั้นก็ฝึกฝนและตั้งทีมซุปเปอร์ฮีโร่ขึ้นมาให้พวกเขาเพื่อภารกิจช่วยโลกแต่ด้วยสาเหตุหลายอย่าง(บ้านแตก) พอโตขึ้นทุกคนก็ได้แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองเป็นเวลานานกว่า 17 ปี แต่แล้ววันหนึ่งทั้ง 5 คนก็ได้ข่าวการตายของพ่อจึงได้กลับมารวมตัวกันที่บ้านอีกครั้ง

The Umbrella Academy
The Umbrella Academy

พี่น้องตระกูลฮาร์กรีฟส์ทั้งห้าคนที่ห่างเหินกันไปนานพวกเขาก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และในระหว่างที่กำลังไว้อาลัยให้ เรจินัลด์ ฮาร์กรีฟ จู่ๆ หมายเลข 5 ก็หล่นลงมาจากฟ้าพร้อมกับบอกว่าจะถึงคราวอวสานของโลก และนี่ก็คือภารกิจใหม่ที่พวกเขาจะต้องยับยั้งวันสิ้นโลกลงให้ได้

สำหรับตอนจบใน SS1 สมาชิกทั้ง 6 คนของทีมได้ออกสืบหาและเผชิญหน้ากับหน่วยงานพิทักษ์เวลาที่เรียกตัวเองว่า เดอะคอมมิชชั่นเนอร์ รวมถึงหาต้นตอที่ทำให้เกิดวันสิ้นโลกแล้วก็พบว่าต้นเหตุจริงๆ ก็มาจากหนึ่งในสมาชิกของพวกเขา นั่นคือหมายเลข 7 ที่เคยถูกพ่อบอกว่าไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร แต่แท้จริงแล้วเธอถูกเปลี่ยนความทรงจำเพราะพลังพิเศษของเธออันตรายเกินไปจนถึงขนาดที่ส่งผลทำให้เกิดวันสิ้นโลก และตอนจบของซีซั่นแรกก็ได้ทิ้งปมไว้ให้ชวนคิดอีกด้วย

The Umbrella Academy
The Umbrella Academy

พอมาถึง SS2 การเดินเรื่องมีความกระชับฉับไวมากกว่า SS1 แถมเรื่องราวก็น่าติดตาม เพราะตัวละครหลักทั้งหมดมีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น ความดราม่าจิตตกในปัญหาส่วนตัวของแต่ละคนลดลง แล้วไปเชื่อมโยงกับผู้คนที่อยู่รอบข้างมากขึ้นแทน โดยซีซั่นนี้ก็ได้เปิดเรื่องมาด้วยการที่แต่ละคนย้อนเวลากลับมาในปี 1963 เพียงแต่มากันคนละช่วงเวลา ในขณะที่หมายเลขห้าที่มีพลังย้อนเวลาและเป็นความหวังที่จะกลับบ้านของทุกคนกลับย้อนไปช่วงเวลาที่เกิดวันสิ้นโลก เพียงแต่คราวนี้มันเกิดขึ้นในปี 1963 จากการที่สหรัฐฯและโซเวียตเปิดฉากยิงนิวเคลียร์ใส่กัน นั่นทำให้หมายเลขห้าต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อตามหาสมาชิกทั้งหมดเพื่อรวมทีม

และความน่าสนใจของ SS2 เลยอยู่กับการเล่นกับประวัติศาสตร์อเมริกา แถมแอบมีการจิกกัดสังคมอเมริกาในยุค 60 ที่หลายอย่างก็ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงสังคมยุคปัจจุบันด้วย สำหรับจุดอ่อนก็คือฉากแอ็กชั่นที่ยังทำออกมาไม่ดีมากเท่าไหร่ แม้ว่าด้านซีจีจะทำออกมาได้ดีและสามารถการประยุกต์พลังพิเศษของแต่ละคนให้ใช้ในการต่อสู้จะสร้างสรรค์ แต่ในแง่ของฉากต่อสู้ด้วยมือเปล่าและการใช้อาวุธที่ดูสมจริงกลับทำออกมาไม่ดีนัก จำเป็นต้องใช้เทคนิคสโลว์โมชั่นเข้าช่วยแบบเห็นได้ชัดอย่างมาก

ถึงแม้ DooDiDo จะบอกว่ามันค่อนข้างดำเนินเรื่องช้า แต่พอได้ดูเข้าจริงๆ ก็แอบติดอยู่เหมือนกัน และสามารถดูจบภายในไม่กี่วันอีกด้วย ผู้เขียนจึงขอให้คะแนนความสนุกโดยรวยที่ 8/10 คะแนนจ้า

ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน

แหล่งที่มา : www.playinone.com, cities.trueid.net