รีวิวภาพยนตร์แห่งโลกเวทย์มนต์ Fantastic Beasts 1
Fantastic Beasts สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่
Fantastic Beasts ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องของโลกเวทย์มนต์ในช่วงปี 1920 ผลงานการเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิตของนักเขียน Harry Potter (J.K. Rowling) และโปรเจ็คนี้ยังตั้งเป้าไว้ว่าจะมีถึง 5 ภาคออกมาให้แฟนๆ โลกเวทย์มนต์มาให้ติดตามชมกัน ที่มีเนื้อหาที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครได้รู้มาก่อน
Fantastic Beasts and Where to Find Them หนังภาคแยกของ Harry Potter ที่เป็นหนังสือชุดพิเศษซึ่ง เจ.เค.โรว์ลิ่ง ได้แต่งขึ้นให้กับงานการกุศลและกำหนดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ที่นักเรียนชั้นปีหนึ่งทุกคนในฮอกวอตส์ต้องมี และหากใครจำได้ในเรื่อง Harry Potter จะมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งชื่อว่า “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” และหนังสือเล่มนี้ก็ตีพิมพ์มีขายในโลกของมักเกิ้ลด้วย โดยเนื้อหาในหนังสือก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลของสัตว์ต่างๆ ในโลกเวทย์มนต์ ซึ่งมีหลายตัวมากที่ยังไม่เคยปรากฏในภาพยนตร์ Harry Potter เลย แล้วคุณจะพบว่าโลกแห่งเวทมนตร์ครั้งนี้ของเจ.เค.นั้นมีเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมมาก
ในภาคแรกนี้ดำเนินเรื่องด้วยเรื่องราวของ นิวท์ สคาแมนเดอร์ (Newt Scamander) นักสัตว์วิเศษวิทยาแห่งโลกเวทมนตร์ของอังกฤษที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปยังนิวยอร์ค เพื่อทำบันทึกเกี่ยวกับสัตว์วิเศษต่างๆ และเขียนเป็นหนังสือ “สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่” ที่ใช้เป็นหนังสือเรียนในยุคของแฮร์รี่ หนังเปิดภาคแรกมาด้วยบรรยากาศสดใสอารมณ์ดี ทุกคนจะได้รู้จักตัวตนของนิวท์ว่าเขาเป็นพ่อมดที่เก่งแต่อ่อนน้อมถ่อมตนขี้อาย จะได้รู้จักสังคมพ่อมดทางฝั่งอเมริกา แต่ก็จบด้วยการปรากฏตัวของ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ พ่อมดร้ายในตำนาน ผู้มีความหลงใหลในศาสตร์มืด ซึ่งเป็นการโผล่มาเซอร์ไพรส์คนดูของจอห์นนี่ เด็ปป์
ในหนังมีการขายความน่ารักของสัตว์มหัศจรรย์ต่างๆ ทั้งนิฟเฟลอร์ โบวทรัลเกิล ธันเดอร์เบิร์ด สวูปปิ้ง อีรัมเพนท์ เดมิไกส์ ออกคามี่ และแกรพฮอร์น ที่สร้างสรรค์มาจากจินตนาการอันสุดยอดของเจ.เค.โดยมีบางตัวที่เคยปรากฏตัวหรือถูกพูดถึงใน Harry Potter มาแล้วส่วนหนึ่ง ก็ต้องขอชื่นชมทีมงานด้านเทคนิคที่สามารถเนรมิตสัตว์เหล่านี้ให้เป็นภาพอันงดงามและมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้
ด้าน เอ็ดดี้ เรดเมย์น ในบท นิวท์ สคาแมนเดอร์ เขาสามาสรถแสดงได้เข้าถึงบทบาทมาก เรามักจะเห็นเขาที่ท่าทางดูเหนียมอายและมีบุคลิกแปลกๆ เฉพาะตัว แต่เมื่อพวกเค้าได้อยู่กับสิ่งที่รักจะมีเสน่ห์บางอย่างที่เปล่งประกายออกมา นิวท์เองก็เช่นกัน ตอนที่เขาอยู่กับบรรดาสัตว์ เขามีความอ่อนโยนกับพวกสัตว์ทำให้ออร่าของเขามันเปล่งประกายออกมาสุดๆ ไปเลย
โดยสเน่ห์ของเรื่องนี้ ยังคงอยู่ที่การเขียนบทของเจ.เค.ที่มักจะแอบใส่ความเกี่ยวเนื่องกันของเหตุการณ์และตัวละครให้มีความสัมพันธ์และมีที่มาที่ไป ซึ่งตรงนี้ทำให้ผู้อ่านรู้สึกสนุกในการเชื่อมโยงแต่ละเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ในเรื่องนี้มีหลายเหตุการณ์อยู่ที่โยงไปยังเนื้อเรื่องหลักของ Harry Potter บอกเลยว่าแฟนๆ ห้ามพลาด! ด้วยประการทั้งปวง โดยเวทย์มนต์ของเจ.เค.ก็ยังไม่เสื่อม แม้ว่าในภาคแรกนี้อาจจะมีบางตอนที่ดำเนินเรื่องชักช้าและอืดอาดไปบ้าง ด้วยความที่มีรายละเอียดเยอะ ต้องใช้เวลาในการปูพื้น จนความยาว 2 ชั่วโมงกว่าอาจไม่เพียงพอต่อการเล่า แต่พอตอนใกล้จบหนังก็เร่งเครื่องคลี่คลายปมต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล
หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เต็มไปด้วยตัวละครวัยผู้ใหญ่ แต่เนื้อหายังโตขึ้นกว่า Harry Potter มาก ทั้งสะท้อนความคอนทราสน์กันระหว่างบริติชกับอเมริกัน เช่น ระบอบกฎหมายและการปกครองที่ล้าหลังของอเมริกา อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ในยุคนั้น สำเนียงบริติชที่ฟังยากกว่า หรือการใช้คำแตกต่างกันแต่ความหมายเดียวกัน เช่น ฝั่งอเมริกาเรียกผู้ไม่มีเวทมนตร์ว่า No-Maj ซึ่งย่อตรงตัวมาจาก No Magic ไม่ได้สร้างสรรค์คำใหม่ให้ยุ่งยากเหมือน British English ที่เรียกผู้ไม่มีเวทมนตร์ว่ามักเกิ้ล
องค์ประกอบโดยรวมของเรื่องนี้คือดีย์มากกกก เป็นเนื้อหาที่คนที่ไม่เคยดูเรื่อง Harry Potter มาก่อนก็สามารถดูได้ แต่ถ้าใครเคยดูมาแล้ว ก็จะมีเรื่องราวให้เราสามารถปะติดปะต่อกันได้ DooDiDo ขอบอกว่า ใครที่ยังไม่ได้ดูต้องไปดู แล้วคุณจะหลงรัก เราขอให้คะแนนความสนุกของหนังเรื่อง Fantastic Beasts and Where to Find Them 9/10 คะแนน
ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน
แหล่งที่มา : www.beartai.com/lifestyle/291578, www.mangozero.com, pantip.com/topic/35819004, www.kwanmanie.com