รีวิวซีรีส์ Love, Death & Robots (Sonnie’s Edge)
Love, Death & Robots ซีรีส์รวมอนิเมชั่นสุดเจ๋ง
Sonnie’s Edge เป็นตอนแรกในซีรีส์ Love, Death & Robots อนิเมชั่นยุคอนาคตใหม่ อนิเมชั่นสั้นจบในตอน ตอนละประมาณ 20นาที ด้านงานภาพเองก็มาหลากหลายแนว มีตั้งแต่แนวอนิเมชั่น 2มิติจนถึง 3มิติ Motion capture จนถึงแนวผสมผสาน เรื่องนี้จัดว่าเป็นที่สุดของแอนิเมชั่นที่ทุกคนไม่ควรพลาด
มาร่วมพยากรณ์โลกอนาคตแห่งเทคโนโลยีมัลติมีเดีย ผ่านซีรีส์ Love, Death & Robots มีทั้งงาน CGI หรือจะเป็นวาดมือ รวมถึงการใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบผสมผสานระหว่างคนและคอมพิวเตอร์กราฟิกและทุกตอนทำออกมาได้ดีมากๆ เลย ถ้าจะให้เปรียบเทียบซีรีส์เรื่องนี้คงเปรียบเทียบกับซีรีส์ Black Mirror เพราะเป็นซีรีส์รวมหนังสั้นไซไฟที่ภาพรวมเป็นไปในโทนดาร์คเหมือนกัน ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบหนังที่เป็น CG สวยสมจริงและเรื่องนี้จัดได้ว่ามีภาพสวยๆ ให้ชมอยู่หลายตอนเลยทีเดียว Netflix ปล่อยเรื่องนี้ออกมาเหมือนจะเป็นการเช็คว่าเรื่องไหนได้รับความนิยมและสามารถต่อยอดจากกระแสที่ออกมาได้บ้าง
ในตอนนี้พูดถึงการต่อสู้ใต้ดินที่ใช้สัตว์ร้ายที่ถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีชีวภาพ ควบคุมโดยมนุษย์แบบเดียวกับใน Avatar ตัวเอกของเรื่องคือ Sonnie หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่ควบคุมร่างสัตว์ร้ายซึ่งเป็นเพศหญิงเช่นเดียวกัน เธอไม่เคยแพ้ใคร ความแข็งแกร่งของเธอมาจากที่ใด Dicko ตัวร้ายหลักต้องการให้เธอล้มมวย เธอปฏิเสธ เหตุผลที่ซีรีส์ให้ไว้ตรงนี้จะเป็นปมสำคัญไปจนถึงตอนจบ Amination ในตอนนี้ใช้ความรุนแรงได้สมกับเรต18+ เลือด เนื้อ เน้นสมจริง เข้ากับแนวคิดหลักของเรื่อง และใช้ความเป็น animation ได้อย่างคุ้มค่ามากเลยทีเดียวเชียวล่ะ เรื่องนี้เราชอบไอเดียและการลุ้นไปกับเรื่องราว ถือว่าเปิดเรื่องได้ดี
Netflix ได้โปรเจ็กต์ที่ตื่นตาตื่นใจผู้ชมมาอยู่เสมอ ทำให้เราไม่เบื่อเลยที่จะต้องตามดูเรื่องใหม่ๆ ที่เข้าฉายในนั้น และนี่คืออีกงานสำคัญที่ทำให้แฟนหนังไซไฟและแฟนอนิเมชั่นรู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจ ยิ่งการได้รับชมตัวอย่างด้านภาพและ Visual ของแต่ละเรื่องก็เพียงพอให้รู้สึกตื่นเต้นที่อยากจะรับชมจริงๆ แล้วชื่อเดวิด ฟินเชอร์ และทิม มิลเลอร์ ก็รับประกันงานคุณภาพที่เชื่อว่าไม่จบแค่ภาพสวย ดูผ่านแล้วจบไปอย่างงานอนิเมชั่นโชว์พลังของงานเรนเดอร์แน่ๆ เพราะมันต้องมาพร้อมเนื้อหาที่ล้ำไม่แพ้งานภาพ การออกแบบฉากต่อสู้ของ Beast ก็ทำออกมาสนุกมาก ได้อารมณ์ครบแถมสู้บนสังเวียนได้เดือดสุดๆ เลย
และการรับชมอนิเมชั่นในแต่ละเรื่องจะได้เห็นเทคนิคต่างๆ อันหลากหลายมากในยุคปัจจุบัน ทั้งยังได้เห็นการขยายขอบเขตการเล่าเรื่องไปยังที่ใหม่ๆ ได้อย่างตื่นตาตื่นใจไปพร้อมๆ กันกับซีรีส์ สมควรเรียกว่าวิชาอนิเมชั่นยุคอนาคตใหม่เลยทีเดียว ทั้งนี้ก่อนเข้าเรื่องสั้นแต่ละเรื่องจะมีการใช้สัญลักษณ์ 3 ตัวที่ใบ้ทั้งพล็อตและสาระของเรื่องนั้นๆ ด้วย นับเป็นการสื่อสารที่ท้าทายให้ผู้ชมได้เดาทางของเรื่องไปด้วย ก็ลองเดาเอานะว่าแต่ละเรื่องจะเกี่ยวกับอะไรบ้าง
โดยรวมๆ แล้ว เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับงานภาพมากๆ สวยสมจริงมากเลยล่ะ สำหรับใครที่ชอบหนังสั้น ซีรีส์จบในตอน แนวไซไฟว่าด้วยโลกอนาคตที่เราย้ายจิตเข้าไปควบคุมหุ่นต์หรือสัตว์ทดลองได้ แล้วมันก็ถูกนำมาใช้จัดการแข่งขันต่อสู้แบบกราดิเอเตอร์สุดโหด DooDiDo จึงขอให้คะแนนที่ 9/10 คะแนน
ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน
แหล่งที่มา : www.beartai.com/lifestyle/316652, www.playinone.com, FB: @yesterdayiwatch
