Netflixข่าวหนังใหม่ดูหนังหนังเอเชีย

รีวิว It’s Okay to Not Be Okay เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน

ซีรีส์ติดอันดับยอดนิยม It’s Okay to Not Be Okay


It’s Okay to Not Be Okay ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ของ tvN ที่มาลงใน Netflix เดินเรื่องด้วยปริศนาหลายอย่าง ตัวเรื่องมีมุมมองทางจิตวิทยาเป็นแรงผลักดันสำคัญของเรื่องไปยังทุกการกระทำ เนื้อเรื่องมีความดาร์ก โรแมนติก เศร้า ตลก อบอุ่น เรียกได้ว่าครบทุกอารมณ์จริงๆ เรื่องดำเนินไปโดยไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

มุนคังแท (คิมซูฮยอน) เจ้าหน้าที่สุขภาพชุมชนที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและพี่ชาย มุนซังแท (โอจองเซ) ที่เป็นออทิสติกและเขาเป็นแฟนคลับของนางเอก โกมุนยอง (ซอเยจี) นักเขียนนิทานเด็กสายดาร์ก ชื่อเสียงโด่งดัง มีภาวะต่อต้านสังคมและเป็นโรคชอบหยิบฉวย (Kleptomania) เป็นซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซีที่มีความดาร์กปนอยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ที่เสียดสีในเชิงตลกร้ายและสะกิดต่อมคอมเมดี้กันเบาๆ นี่ถือเป็นการต้อนรับการกลับมาของพระเอก คิมซูฮยอน หลังออกจากกรม แน่นอนว่าการรับเล่นซีรีส์แต่ละเรื่องของเขา นับเป็นเครื่องรับประกันอย่างดีมากเลยว่า เนื้อหาภายในเรื่องนั้นจะต้องออกมาไม่ธรรมดา และไม่ผิดหวัง

เป็นปกติธรมดาของซีรีส์แต่ละเรื่องที่จำเป็นต้องปูพื้นตัวละครให้คนดูเข้าใจ เรื่องนี้ก็เช่นกัน แต่การปูพื้นกลับแตกต่างออกไปจากซีรีส์ที่ใช้คำว่าโรแมนติก ด้วยการนำสตอปโมชันมาใช้ในการเล่าเรื่องที่สามารถดึงดูดความสนใจและเผยความดาร์กที่มีออกมาได้อย่างสวยงามน่าชื่นชม ถึงจะไม่ได้บอกตรงๆ แต่ก็ทำให้เราเข้าใจได้ว่า พระเอกและนางเอก พวกเขาเคยมีอดีตที่เกี่ยวข้องกันมาก่อน เด็กสาวที่โกรธทุกคนบนโลกใบนี้เพราะทุกคนมองว่าเธอคือตัวประหลาด โดดเดี่ยว และไร้เพื่อนพ้อง วันหนึ่งเด็กหญิงช่วยชีวิตเด็กชายโดยไม่ตั้งใจ เด็กชายหน้าตาอ่อนโยนก็เดินตามเด็กหญิง จนวันหนึ่งก็พบว่า เธอช่างน่ากลัวจริงๆ

It's Okay to Not Be Okay
It’s Okay to Not Be Okay

โกมุนยอง นักเขียนหนังสือเกี่ยวกับเด็กชื่อดัง เธอเป็นโรคต่อต้านสังคมอย่างรุนแรง นึกถึงแต่ตัวเอง หยิ่งยะโส ไม่ประนีประนอมกับความรัก ไม่เคยเห็นอกเห็นใจใคร ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของใครเลย วันหนึ่งเธอได้มาพบกับ มุนคังแท ชายคนที่มีอาชีพทำงานอยู่ในวอร์ดด้านจิตเวชของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง อาชีพที่ต้องจดบันทึกอาการคนไข้และรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ที่เขาทั้งสองจะได้มาเยียวยาความรู้สึกของกันและกัน ที่ต่างคนก็ต่างเกิดมาเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายของกันและกัน คนหนึ่งเป็นผู้ปลดปล่อย ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นผู้ปลอบประโลม เรียกได้ว่า เคมีเข้ากันสุดๆ

It's Okay to Not Be Okay
It’s Okay to Not Be Okay

คิมซูฮยอน เขาได้ให้การสัมภาษณ์พิเศษกับ Netflix ว่า “ตอนผมได้อ่านบทครั้งแรก ผมรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมาเลยครับ ถ้าคุณได้ดูคุณจะรู้สึกได้เลยว่าเรื่องนี้นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ที่อยู่บนความแตกต่างหลากหลาย ต่างคนต่างเรื่องราวกันไป รวมถึงเรื่องราวของความรัก” ขณะที่ ซอเยจี ก็บอกว่า “ไม่เคยเห็นคาแรกเตอร์ในแบบบท โกมุนยอง มาก่อน ไม่ว่าจากซีรีส์เรื่องไหน ฉันได้อ่านบทก็ปวดใจไม่แพ้กัน ที่คนอย่างโกมุนยองไม่เคยจะเห็นอกเห็นใจใครเพราะมัวแต่เห็นแก่ตัวเอง ฉันดำดิ่งไปกับบทโกมุนยองและตั้งใจจะถ่ายทอดความรู้สึกแบบที่โกมุนยองเป็นออกมาให้ผู้ชมได้ดูอย่างตั้งใจที่สุด”

อารมณ์ของเรื่องคล้ายกับคนเป็นไบโพลาร์อยู่เหมือนกันนะ เป็นซีรีส์ที่เปลี่ยนอารมณ์ฉับไวเหมือนใจมนุษย์ DooDiDo จึงขอให้คะแนนความสนุกและน่าติดตามอยู่ที่ 9/10 คะแนน บอกเลยว่าดูแล้วจะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน

แหล่งที่มา : www.beartai.com, cities.trueid.net