Netflixดูหนังภาพยนต์หนังไทย

รีวิว ขุนพันธ์ 2 หนังไทยแอคชั่นเลือดสาด

ขุนพันธ์ 2 กับการแฝงตัวไปเป็นเสือ


ขุนพันธ์ 2 หนังไทยแอ็คชั่นบู๊กันเลือดสาด ว่าด้วยเรื่องราวของตัวละครหลัก ขุนพันธรักษ์ราชเดช หรือ ขุนพันธ์ ตำรวจมือปราบในตำนาน นำแสดงโดย อนันดา เอเวอริงแฮม ที่ในภาคสองนี้เขาจะต้องถูกพักราชการไป เนื่องจากได้ทำการจับกุมเกินกว่าเหตุ และทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ตัวเองกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

ในภาคนี้ได้ เป้ อารักษ์, ก้อย รัชวิน และพันเอกเบิร์ด วันชนะ มาแสดงร่วมด้วย ซึ่งทำให้น่าติดตามมากขึ้น โดยเสียงส่วนใหญ่จากภาคแรกมักจะบอกว่า หนังสนุกแต่บทพังมากแถมซีจีก็ห่วย แต่บอกเลยว่าภาคนี้ซีจีและบทดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ภาคนี้ก็ได้เล่าเรื่องต่อเนื่องมาในยุคที่กฎหมายอ่อนและคนชั่วก็ครองเมือง ทุกพื้นที่ภาคกลางถูกครอบครองด้วยอิทธิพลของเสือฝ้ายและเสือใบ และในขณะนั้นขุนพันธ์เขาถูกบีบให้พักราชการ เขาจึงแฝงตัวเป็นหนึ่งในโจรของ “เสือฝ้าย” และ “เสือใบ” ซึ่งได้ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับเสือทั้งสองในนาม “เสือบุตร”

บทดูเข้มข้นมากขึ้น เมื่อชาวบ้านลุกขึ้นมาเป็นโจร ส่วนข้าราชการทั้งหลายก็ล้วนหาผลประโยชน์ใส่ตัว ในขณะที่ขุนพันธ์พักราชการก็ได้มีคนมาเป็นสารวัตรคนใหม่แทน แต่ก็ต้องถูกยิงและถูกไฟเผา แต่ก็ไม่ตายเพราะเขาได้เรียนรู้วิชาอาคมเพื่อที่จะมาปราบเสือฝ้าย แถมยังมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เมื่อนายใหญ่ของทางการได้สั่งเก็บชุมโจรชุดดำ เสือฝ้ายที่คิดจะมาเป็นใหญ่จึงได้หักหลังชุมโจร ทำให้เสือใบกับเสือบุตรต้องร่วมมือกัน

ชมตัวอย่างหนัง:

ในส่วนของเนื้อหา ถือว่าตัวหนังใช้เวลา 2 ชั่วโมงได้อย่างคุ้มค่า เก็บรายละเอียดเรื่องราวต่างๆ ได้ลงตัว ไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป บวกกับบริบทต่างๆ ที่ดูเหมือนจะใกล้ตัวคนไทยมากๆ ทั้งเรื่องศาสนา คาถาอาคม ส่วนจุดที่ยังคงผิดพลาดอย่างน่าเสียดายคือ เราก็ยังคงไม่ได้รู้จักขุนพันธ์ได้มากขึ้นกว่าเดิม เรารู้แค่เพียงว่าเขาคือตำรวจผู้แก่กล้าอาคม โดยหนังยังมีจุดที่ละเลยในตัวขุนพันธ์ หรือแม้กระทั่งว่าอะไรที่หล่อหลอมให้ท่านมาสนใจเรื่องวิชาอาคมก็จะมีส่วนช่วยให้เรารู้จักตัวละครและอยากลุ้นกับภารกิจต่างๆ มากขึ้น แต่กลับไปเล่าเรื่องราวของเสือใบแทน จนเรารู้จักเรื่องราวของมหาโจรมากกว่าตัวพระเอกเสียอีก

รีวิว ขุนพันธ์ 2
รีวิว ขุนพันธ์ 2 หนังไทยแอคชั่นเลือดสาด

ในภาคนี้ แอบมีการหักมุมนิดๆ หน่อยๆ อย่างไรก็ตามก็ต้องไปลองติดตามกันเอง และตอนนี้ก็มีฉายใน Netflix สามารถไปตามดูกันได้ ส่วน SA Game ขอให้คะแนนความสนุกที่ 8/10 คะแนน เพราะหนังไม่ถึงกับดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่กว่าภาคก่อน แถมดูเพลินกว่าด้วย ถือว่าทำดีจ้า !!

ติดตามข่าวสารความบันเทิงทั่วโลก ทางเว็บไซต์ DooDiDo อัพเดตก่อนใครทุกวัน

แหล่งที่มา : cities.trueid.net, www.metalbridges.com/khun-pan, pantip.com