ดูหนังภาพยนต์หนังต่างประเทศ

รีวิวหนัง บ้านเพริกริน เด็กสุดมหัศจรรย์ (2016)

Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children


บ้านเพริกริน เด็กสุดมหัศจรรย์ ภาพยนตร์แนวแฟนตาซี ผจญภัย ผลงานสุดบรรเจิดของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน (ผู้กำกับ Alice Though The Looking Glass) ที่อิงจากนวนิยายขายดี Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children ซึ่งเป็นการพูดถึงกลุ่มเด็กๆ ผู้มีพลังวิเศษในบ้านพักลึกลับ

บนเกาะที่ห่างไกล ที่นั่นมีบ้านที่รับเลี้ยงเด็กพิเศษอยู่ โดย มิสเพริกริน ผู้ปกป้องเหล่าเด็กประหลาด เธอสร้างลูปเวลาซึ่งทำให้เธอและเด็กๆ ใช้ชีวิตอยู่ในวันวันเดียวซ้ำไปเรื่อยๆ วิธีนี้ช่วยปกป้องพวกเขาจากสิ่งเลวร้ายต่างๆ ในโลกซึ่งดำรงอยู่นอกลูปเวลานี้ ในขณะที่ เจค เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่เติบโตมากับเรื่องเล่าปรัมปราของคุณปู่ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของบ้านเด็กกำพร้า และเหล่าเด็กประหลาดที่มีพลังพิเศษ และแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เจค จะรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่แล้วเมื่อปู่ของเขาตายอย่างลึกลับทำให้ เจค ได้ค้นพบเรื่องราวที่แท้จริงของปู่ด้วยการเดินทางไปยังเกาะ และได้ค้นพบว่าจริงๆ แล้วเรื่องเล่าของคุณปู่นั้นคือเรื่องจริง

ชมตัวอย่างภาพยนตร์:

ภาพยนตร์ได้เดินเรื่องไปข้างหน้าอย่างไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป ซึ่งเป็นเหมือนภาพยนตร์แฟนตาซีหลายๆ เรื่องที่ผู้ชมจะได้ทำความรู้จักกับตัวเอกของเรื่องอย่าง เจค ที่รับบทโดย Asa Butterfield ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะมีอยู่เยอะพอสมควร ราวๆ เกือบสิบคน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาในการชมภาพยนตร์แต่อย่างใด ตัวละครแต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และมีพลังพิเศษที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และเหนือสิ่งอื่นใดตัวละครที่ดูน่าสนใจมากที่สุดก็คือ สาวในชุดดำอย่าง มิสเพริกริน ที่รับบทโดย Eva Green ที่แสดงออกถึงบุคลิกที่สะท้อนให้เห็นถึงความเฉพาะตัวของผู้กับ ทิม เบอร์ตัน ออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุด

Miss Peregrine
Miss Peregrine’s Home for Peculiar Children

ฉากที่พีคที่สุดสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะเป็นฉากการต่อสู้กับเหล่าตัวร้ายทั้งหลายออกตามล่าเหล่าเด็กมหัศจรรย์ ซึ่งการต่อสู้ก็ไม่ได้บู๊ระห่ำอะไรมากมาย แต่เด็กทุกคนก็ได้ใช้ความสามารถของตัวเองในการต่อสู้อย่างสุดกำลัง

สิ่งที่เห็นชัดจากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ การที่เด็กแต่ละคนนั้นถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด แต่ความประหลาดนั้นสามารถเติมเต็มและดูแลคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี บางครั้งสิ่งที่เรามีติดตัวดูเหมือนจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าวันหนึ่งสิ่งที่ดูเหมือนจะไร้ค่านี้แหละจะช่วยเหลือตัวเราและคนอื่นๆ ให้อยู่รอดปลอดภัย

การเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้เรามองว่ามันยังดูไม่สมูธ แต่ไม่ถึงกับดูไม่สนุก แต่เราแค่รู้สึกว่าหนังมันน่าจะสนุกมากกว่านี้ ถ้าเขาไม่รีบเล่ารีบตัดจนเกินไป DooDiDo เราจึงขอให้คะแนนที่ 7/10 คะแนน เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี

ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน

แหล่งที่มา : movie.mthai.com, www.sanook.com, www.kwanmanie.com