รวมเรื่องราวหนังสุดมันส์ Fast & Furious ภาค 1-9
ก่อนไปดู Fast 9 มาย้อนไทม์ไลน์อ่านเรื่องราวกันก่อนดีกว่า
Fast & Furious หนังแอ็กชั่นแฟรนไชส์ที่หลายคนชื่นชอบมากๆ ไม่ว่าจะด้วยความเก๋าความคูลของตัวละคร หรือความสบายใจเวลาไปดูที่ไม่ต้องแคร์กฎฟิสิกส์อะไรเท่าไหร่ นับตั้งแต่ Fast & Furious เข้าโรงฉายเมื่อปี 2001 ก็กลายเป็นหนังที่ถูกชื่นชอบจากทั้งบรรดาคอหนังแอ็กชั่น และบรรดาผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์จากบรรดารถแต่งมากมายที่ปรากฏในภาพยนตร์รวมถึงฉากขับรถที่เร้าใจ
แน่นอนว่าการที่เราดูหนังแอ็กชันคงต้องทิ้งเหตุผลไว้บ้านแล้วไปรับความมันส์อย่างเดียว ซึ่งพอเราได้ลองสวมวิญญาณคอหนังแอ็คชั่นเพื่อดูและหวังว่าจะลุ้นกับฉากบู๊ต่างๆ ผลลัพธ์เหรอคะ เรากลับได้ดูหนังแอ็กชันที่มีการโคโรกราฟได้ขี้เกียจมาก ถามอย่างว่าใครไม่เคยเห็นฉากขับรถไล่ล่าใครไม่เคยเห็นซีนขับรถลอดรถบรรทุกหรือซีนพะบู๊ดวลหมัดเตะต่อยบ้าง..ก็เคยเห็นมาทั้งนั้นแหละ
แม้ว่าหลังเรื่องแรกแล้วดูเหมือนวิน ดีเซล ที่รับบทดอมหรือโดมินิก โทเร็ตโต หนึ่งในตัวละครหลักของเรื่องอาจจะไม่กลับร่วมงานด้วยแล้ว แต่สุดท้ายก็กลับมาซึ่งรถตั้งแต่ Fast & Furious ซึ่งเป็นภาคที่ 4 จนถึงเรื่องล่าสุด Fast & Furious 9 ที่กำลังจะเข้าโรงฉายบ้านเราพร้อมๆ กับสหรัฐอเมริกาในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ซึ่งภาคนี้จะมาพร้อมกับตัวละครที่เคยเสียชีวิตไปแล้วคืนชีพกลับมาอีกครั้งโดยคราวนี้เป็นฮานนั่นเอง เอาล่ะ! เรามาดูไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นของ Fast and Furious กันเลยดีกว่าจะได้ไม่สับสนกับเส้นทางของฮานที่กำลังคืนชีพกลับมา
1. The Fast and The Furious (2001)
จุดเริ่มต้นของ Fast and Furious ที่เริ่มเรื่องราวของตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งนามว่า ไบรอัน โอคอนเนอร์ แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มซิ่งรถของดอมหรือโมินิก โทเร็ตโตเพื่อสืบเรื่องการปล้นอุปกรณ์อีเล็กทรอนิก แต่ปรากฏว่าไบรอัน ไปตกหลุมชอบน้องสาวของดอมที่ชื่อ “มีอา” รวมไปถึงมีความผูกพันธ์กับดอม จนสุดท้ายปล่อยให้ดอมหนีการจับกุมของตำรวจในขณะที่ตัวเองถูกไล่ออกและต้องหนีตำรวจไปด้วยเหมือนกัน
2. Turbo Charged Prelude to 2 Fast 2 Furious (2003)
ในภาค 2 กลับมาพร้อมเรื่องราวหลังจากภาคแรก อันที่จริงถ้าจะดูให้เข้าใจยิ่งขึ้น ต้องดูหนังสั้นเรื่อง the Prelude ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวของไบรอันหลังถูกให้ออกจากราชการ เขาต้องกลายเป็นคนที่แฝงตัวท่ามกลางสังคมรถซิ่ง ขับรถกินเงินคนอื่นไปเรื่อยจนฝีมือเข้าขั้นระดับเทพ
3. 2 Fast 2 Furious (2003)
เป็นเรื่องของไบรอันที่ถูกเรียกตัวจาก FBI ให้เข้าไปทำหน้าที่แฝงตัวเป็นคนขับรถให้กับแก็งค้ายาเพื่อแลกกับการล้างข้อหาให้ตัวเอง หากไบรอันทำสำเร็จเขาจะได้รับการลบประวัติอาชญากร และพร้อมกันยังอาจมีโอกาสกลับมารับใช้ราชการอีกครั้ง โดยในภาคนี้มีโรมัน เพียร์ซเข้ามาร่วมซิ่งรถด้วย โดยเป็นจุดเริ่มต้นของตัวละครนี้กับ Fast and Furious ภาคต่อๆ ไป รวมทั้งเทจ ซึ่งต่อไปหลังจากภาคนี้จะเข้ามามีบทบาทด้านการใช้คอมพิวเตอร์แฮกข้อมูลเข้ามาร่วมด้วย
4. Los Bandoleros (2009)
เรื่องราวภาคนี้ ฉีกจาก 2 ภาคแรกโดยสิ้นเชิง เรื่องราวของเด็กหนุ่มบ้ารถที่ชื่อชอร์น ซึ่งเขาชอบรถซิ่งอย่างมาก จนในที่สุดโดนจับข้อหาซิ่งบนถนน แต่เคราะห์ดีที่เขายังเป็นเยาวชนจึงยังไม่ต้องเข้าคุก ทางเดียวที่เขาจะอยู่ต่อไปได้โดยไม่ผิดกฎหมาย คือแม่เขาต้องส่งเขาไปอยู่กับพ่อที่เป็นทหารประจำการอยู่ในญี่ปุ่น การมาโลกตะวันออกทำให้ชอร์น พบกับทวิงค์ ลูกทหารนักขายที่สามารถขายของได้ทุกอย่างและยังพบกับ นีล่า ลูกบุญธรรมของยากูซ่า ซึ่งแม่ของเธอเคยเป็นนางโลม
ด้วยความสนิทของชอร์นกับทวิงค์ ทำให้เขามีโอกาสเข้าสู่โลกการแข่งรถใต้ดินในญี่ปุ่น เขาค้นพบว่านีล่าก็แข่งรถด้วยเช่นกัน ทำให้เขาเริ่มถูกใจสาวคนนี้ ทว่านีล่ากลับเป็นแฟนของดริฟคิง ประจำเมืองโตเกียว ด้วยความห้าวของชอร์น จึงท้าแข่งกับดริฟท์คิงโดยไม่ทราบว่าต้องแข่งอะไร ซึ่งฮานเพื่อนของดริฟท์คิง ก็ใช้โอกาสนี้ในการโค่นบัลลังค์ดริฟท์คิง และสร้างสัมพันธ์กับชอร์นโดยให้ยืมรถ
แต่ปรากฏว่า ชอร์นแข่งแพ้ และรถพังยับ ทำให้ชอร์นต้องมาเป็นลูกสมุนของฮาน มีหน้าที่เก็บเงินดอกเบี้ยที่ปล่อยกู้ของฮาน โดยชอร์นขอให้ฮานฝึกดริฟท์ให้ ฮานคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์จึงปั้นเด็กคนนี้ขึ้นมา และในที่สุดก็ชนะสมุนของดริฟท์คิงที่ชื่อโมริโมโต้ได้ แถมชอร์นยังเริ่มเป็นที่ถูกใจนีล่า
ทว่าเรื่องกลับมาปะทุ เมื่อลุงของดริฟท์คิง “คามาตะ” กลับพบว่าฮานโกงเงินแก๊ง ทำให้ดริฟท์คิง ต้องมาตามทวงหนี้ฮานที่โกงไป ผลคือฮานเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิตในระหว่าง โดนไล่ล่า ส่วนแก๊งค์ของฮานรวมถึงชอร์น โดนหมายหัว ทำให้ชอร์นกับทวิงค์ตัดสินใจนำเงินไปคืน คามาตะ และขอท้าแข่งรถเพื่อเป็นอิสระและไม่โดนหมายหัวอีกต่อไป
5. Fast & Furious (2009)
หลังจากหายไปนานหลายปีภาคที่ 4 กลับมาที่เรื่องราวของดอมมินิค โทเร็ตโต้ อีกครั้ง หลังจากที่หนีไปในภาคแรก ดอมไปอาศัยในแถบอเมริกาใต้และยังดักปล้นสินค้าเหมือนเคย โดยร่วมกับเล็ตตี้และลูกทีม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดอมมีความสุขเลย เขาจึงตัดสินใจทิ้งเล็ตตี้ไปตั้งต้นใหม่คนเดียว ส่วนเล็ตตี้ตัดสินใจกลับอเมริกา แต่ก็พบวิธีจะทให้เธอและดอมเป็นอิสระจะพันธการหมายจับ โดยการช่วยไบรอันตามจับพ่อค้ายาที่ชื่อ “บราก้า” ซึ่งขนยาเสพติดจากเม็กซิโกอาศัยการเกณฑ์คนขับรถซิ่งตามท้องถนนมาขับให้ด้วย เล็ตตี้จึงแฝงเข้าไปทำงานดังกล่าว แต่เกิดผิดพลาด กลายเป็นว่าบราก้าหลอกใช้ทุกคนและทำให้เล็ตตี้เสียชีวิต
พอเรื่องถึงหูดอม เขากลับบ้านมาหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เขารัก ในที่สุดดอมก็พบหนทางเข้าไปขับให้บราก้า เช่นเดียวกับไบรอันที่ต้องพยายามตามจับบราก้าด้วยเช่นกัน ในที่สุดเมื่อทั้งคู่รู้ว่าเป็นกับดัก จึงร่วมมือกันในการจับพ่อค้ายาตัวเอ้ ให้สำเร็จ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากหนึ่งในอดีตสมุนพ่อค้ายา จีเซล ในการชี้เป้าที่ บราก้าจะไปสวดมนต์ขอพรจากพระเจ้า โดยไบรอันกะว่า เมื่อจบเรื่องดอมจะเป็นอิสระแต่ปรากฏว่า โทษจากการทำผิดที่ผ่านมาร้านยแรงมาก ศาลจึงตัดสินให้ดอมติดคุก
6. Fast 5 (2011)
ดอมเป็นอิสระจากคุก แต่ก็ทำให้ทั้งมีอาและไบรอันกลายเป็นผู้ต้องหาช่วยเหลือผู้ต้องขังตามไปด้วย ทั้งหมดตัดสินใจว่าจะมุ่งลงใต้ไปริโอ ดิจาเนโร เพื่อพบกับเพื่อนเก่า วินซ์ เขานำเสนองานขโมยรถจากรถไฟให้โดยร่วมมือกับทีมท้องถิ่นที่วินซ์ทำงานด้วย แต่ปรากฏว่าเมื่อเห็นท่าไม่ดี ดอมจึงสั่งให้มีอาขับรถที่ขโมยมากลับไปยังเซฟเฮ้าส์ ออกนอกแผนที่วางเอาไว้ ทำให้ทีมขโมยรถไม่พอใจ จึงจับดอมกลับไบรอันไปเค้นความจริงและให้นำรถมาคืน
เมื่อมาถึงรถดอมกับไบรอันพบว่า มีชิฟซ่อนอยู่ในรถที่มีข้อมูลของเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ในริโอ เรเยส ข้อมูลที่บอกถึงที่มาที่ไปทางการเงินจนพบว่าเงินของเรเยส เก็บไว้ในสถานีตำรวจ ดอมกับพวกจึงตัดสินใจว่าจะไปปล้นมา ขณะที่พวกเขาต้องหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าปฏิบัติการพิเศษพันธุ์ดุที่ชื่อว่า ฮอบบ์ และท้ายสุด ดอม ไบรอันและมีอา กลายมาเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อมีอาท้องกับไบรอัน
7. Fast & Furious 6 (2013)
จุดเปลี่ยนภาพยนตร์สายซิ่ง อยู่ที่ ภาค 6 หลายคนบอกว่า เป็นภาคแรกที่หนังรถซิ่งกลายมาเป็นหนังแอคชั่นเต็มตัว ในภาคนี้ฮอบส์ต้องร่วมมือกับดอมและไบรอัน รวมทั้งลูกทีม เพื่อเผชิญกับกองกำลังรับจ้าง ซึ่งมีโอเวน ชอว์ อดีตหน่วยเอสเอเอสของอังกฤษเป็นหัวหน้า โดยฮอบส์ใช้ภาพของเล็ตตี้แฟนของดอมที่มีชีวิตอยู่โดยทำงานร่วมกับชอว์เป็นสิ่งดึงให้ดอมทำงานด้วย และในตอนจบของเรื่อง ฮานก็ไปโตเกียว
8. The Fast and the Furious : Tokyo Drift (2006)
แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายเรื่องที่ 3 ในแฟรนไซส์ของ Fast and Furious แต่หากนับตามไทม์ไลน์ของเรื่องโดยดูจากบทบาทของฮานต้องนับเรื่องนี้เป็นภาคที่ 6 ของเรื่องหากตัดภาพยนตร์สั้นทั้ง 2 เรื่องออกและนับเฉพาะเรื่องยาวทั้งหมดของ Fast and Furious โดยในเรื่องนี้เกิดขึ้นในญี่ปุ่นซึ่งฮานได้สอนให้ชอน บอสเวลส์ดริฟต์รถ และมีเนื้องเรื่องเกี่ยวกันกับแก๊งก์ยากูซ่า โดยตอนท้ายเด็ดการ์ด ชอว์ได้ปรากฏตัวพร้อมกับการสังหารฮาน ก่อนการเข้าสู่ The Furious 7
9. The Furious 7 (2015)
เรื่องราวภาคนี้ต่อจากภาคที่ 6 หลังจากจัดการกับโอเว่น ชอร์ได้สำเร็จ ดอมและทีมกลับไปบ้านที่อเมริกา แต่หลังจากที่ใช้ชีวิตธรรมดาสักระยะก็พบว่า พวกเขาตกในอัตรายจากบุคคลนิรนามที่มาตามล่าพวกเขา และชายคนนี้ได้ฆ่าฮานไปแล้วที่กรุงโตเกียว (ฉากที่ฮานโดนรถเบนซ์ชนในภาค3) ขณะที่บ้านดอมโดนพัสดุที่มาพร้อมระเบิดถล่มยับ
ดอมไปตามสืบข้อมูลชายนิรนามคนนี้ที่โตเกียวแต่ก็ไม่ได้เบาะแส จนพบว่าฮอบบ์ ต้องนอนในโรงพยาบาลเพราะชายคนเดียวกัน ฮอบจึงเผยว่าชายคนดังกล่าวคือพี่ชายของโอเว่น ชอร์ ชื่อเดคคาร์ด ชอร์และตั้งใจมาล้างแค้นให้น้องชาย ดอมสามารถสะกดรอยตามเดคคาร์ดได้ในบ้านเกิด หลังจากเขามาซุ่มดูลูกทีม การต่อสู้ครั้งแรกทำให้ดอมได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือโดยมิสเตอร์ โนบอดี้คนในฉากเงาผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิบัติการลับของรัฐบาล
มิสเตอร์โนบอดี้ให้ดอมและทีมไปตามหา “ดวงตาแห่งเทพ” โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถแฮกเข้ากล้องวงจรปิดได้ทุกที่ทั่วโลก จากแฮคเกอร์ที่ชื่อ “แรมซี่ย์” โดยหลังจากช่วยแรมซี่ย์ ผ่านการขับรถอย่างบ้าระห่ำ แรมซี่ย์เผยว่าโปรแกรมอยู่กับเพื่อเธอที่อะบูดาบี แต่ปรากฏว่าเพื่อนเธอไม่รู้ว่าในการ์ดที่เธอส่งให้มีอะไรจึงขายไปให้เจ้าชาย ซึ่งดอมและทีมต้องไปเอามา
หลังจากได้โปรแกรมตาเทพมาแล้ว ดอมและทีมสบโอกาส เข้าจู่โจม เดคคาร์ด ชอร์ ปรากฏว่า ชอร์ร่วมมือกับแก๊งค์ที่ขังแรมซี่ย์ไว้ตอนแรก ทำให้ผิดแผนและทั้งทีมตามไล่ล่า ดอมจึงตัดสินใจว่ากลับมาต่อสู่ในบ้าน น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า เพื่อให้แรมซี่ย์มีโอกาส นำตาเทพกลับคืนมาเป็นของเธออีกครั้ง
10. The Fast & Furious 8
โดยเรื่องเกิดหลังจากภาค ที่ 7 หลังจากดอมและทีมได้แรมซี่ย์มาเป็นพวก พวกเขาก็รับงานให้กับหน่วยงานลับรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งมีผู้หญิงชื่อไซเฟอร์ มาหาดอม และขอให้เขาทำงานให้ ดอมตกลงใจรับงาน โดยหลังจากนั้นไม่นานเขาได้รับคำสั่งจากหน่วยงานลับที่ทำงานให้ไปบุกชิงเครื่องมือ EMP ปรากฏว่าดอมเกิดตัดสินใจชิงอุปกรณ์นั้นแล้วหายไป
ฮอบบ์ ถูกจับเข้าเรือนจำเดียวกับเดคคาร์ด ชอร์ ก่อนจะตัดสินใจกันรวมหัวแหกคุกหาความจริง เดคคาร์ดกล่าวว่าน้องเขาได้รับการว่าจ้างจากไซเฟอร์เช่นกัน และดอมน่าจะตกในสถานการณ์เดียวกัน ฮอบบ์จึงร่วมกับลูกทีมของดอม และมิสเตอร์โนบอดี้ในการตามล่าไซเฟอร์ ซึ่งดอมเองก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติการของไซเฟอร์ เนื่องจากดอมพบว่าเธอจับตัวลูกชายเจาและแฟนเก่าเอเลน่าเอาไว้ ทำให้ดอมไม่มีหนทางที่จะต่อต้าน นอกจากช่วยชีวิตลูกชายและแฟนเก่าของเขา
แต่ลูกทีมเขาก็ไม่ลดละที่จะเชื่อว่าดอมมีเหตุผลบางอย่างในการกระทำของเขา และในที่สุดหลังจากทีมสืบรู้เรื่องราวลูกของดอม ได้ส่งคนขึ้นไปบนเครื่องบินของไซเฟอร์เพื่อช่วยลูกของดอม และเมื่อดอมรู้ว่าลูกปลอดภัย เขาจึงกลับมาช่วยทีมในการป้องกันสงครามนิวเคลียร์
11. Fast & Furious 9 (2020)
แน่นอนว่าตำนานทีมซิ่งมหากาฬทีมนี้ใน Fast & Furious 9 ยังคงนำทีมมาโดยดอม โทเร็ตโตซึ่งนำแสดงโดยวิน ดีเซล โดยในภาคนี้ดอมปลีกวิเวกออกไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับเล็ตตี้และไบรอัน ลูกชายตัวน้อย แต่จู่ๆ เขากลับต้องเผชิญหน้ากับตราบาปในอดีต พร้อมทั้งต้องรวบรวมทีมนักซิ่งเพื่อหยุดการทำลายล้างโลกโดยนักฆ่าจอมโจรและนักซิ่งระดับพระกาฬ อย่างเจคอบ ผู้ซึ่งเป็นน้องชายของดอมนั่นเอง
โดยผู้ที่มารับบท เจคอบ คู่ปรับคนใหม่ของ ดอม โทเร็ตโต้ นั่นก็คือ จอห์น ซีนา นักมวยปล้ำชื่อดัง แต่ที่มาแย่งซีนสุดๆ ในช่วงท้ายตัวอย่างหนังก็คงหนีไม่พ้นการปรากฏตัวของ “ฮาน” ซึ่งหากพอจะจดจำกันได้ในภาคที่ 3 อย่าง The Fast and the Furious: Tokyo Drift ตัวละครตัวนี้ได้ตายไปแล้ว แล้วเขากลับมามีลมหายใจได้อย่างไร ต้องรอพิสูจน์ ส่วนในช่วงแรกของเทรลเลอร์ยังคลอเคล้าด้วยทำนองเพลง “See You Again” ที่ทำให้เราพลันนึกถึง พอล วอล์กเกอร์ ผู้ล่วงลับซึ่งเคยร่วมระห่ำใน Fast & Furious มาอย่างยาวนาน
ร่วมด้วยทีมนักแสดงที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีทั้ง มิเชลล์ รอดดริเกซ, ไทริส กิ๊บสัน, คริส “ลูดาคริส” บริดเจน, จอร์ดานา บริวสเตอร์, นาตาลี เอมมานูเอล, ซง คัง มากไปกว่านั้น 2 นักแสดงระดับออสการ์ เฮเลน มิร์เรน และ ชาร์ลิซ เธอรอน รวมถึงนักร้องเจ้าของรางวัลแกรมมี่ คาร์ดี บี มาร่วมความระห่ำในภาคนี้
เตรียมพบความเดือดระห่ำดุเด็ดเผ็ดมันส์สุดๆ ไปกับหนังแอคชั่นรถซิ่งเรื่อง Fast & Furious 9 ซึ่งเดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทยอีกด้วย ไปพบพร้อมกันกับ DooDiDo ได้เลยในวันที่ 21 พฤษภาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์
ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน
แหล่งที่มา : www.ridebuster.com, www.grandprix.co.th, www.sanook.com, Esport
