ดูหนังหนังต่างประเทศ

ดูหนัง เดอะ ไลอ้อน คิง ( The Lion King 2019 )

อ่านรีวิวก่อนย้อนดู The Lion King 2019 กันดีกว่า


เรื่องราวของสิงโตแห่งผาทรนง หลังสกา พระอนุชาวางแผนลอบปลงพระชนม์มูฟาซาและเถลิงอำนาจเป็นกษัตริย์ผู้ครองผาทรนง ทำให้ซิมบ้า หน่อเนื้อกษัตริย์แท้ๆ ต้องเนรเทศตัวเองไปไกลจากผาทรนง จนเขาได้พบกับ 2 คู่หู พุมบ้า หมูป่าจอมป่วนและทีโมน  เมียร์แคตจอมกวน จนวันนึงที่ได้พบกับ นาลา สิงห์สาวคู่หมายวัยเยาว์อีกครั้ง ทำให้ ซิมบ้า ต้องตัดสินใจว่าเขาจะกลับผาทรนงเพื่อพิสูจน์ความกล้าและทวงคืนบัลลังก์อันชอบธรรมของตนอีกครั้งหรือไม่

หลังชิมลางทั้งหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Ironman (2008) และ The Jungle Book (2016) หนังประเดิมไลฟ์แอ็คชั่นจากดิสนีย์ไปแล้ว จอห์น แฟฟโรว์ มองเผินๆ จากโปรไฟล์อาจจะคิดว่างานนี้ แฟฟโรว์เคี้ยวหมูแน่ๆ อย่าลืมว่า ฉบับแอนิเมชันปี 1994 ถือเป็นงานคลาสสิกระดับชิ้นโบว์แดงที่แฟนๆ รักที่สุด ครองตำแหน่งทั้งแอนิเมชันวาดมือที่ทำเงินสูงที่สุดในโลก เคยกลับมาฉายทั้งแบบ IMAX และ 3D ที่ยังคงประสบความสำเร็จด้านรายได้ระดับปรากฎการณ์เช่นเดิม ดังนั้นการนำผลงานระดับขึ้นหิ้งแบบนี้หากไม่ได้รับดอกไม้ก็คงโดนทั้งคนดูและนักวิจารณ์รุมสับเละทีเดียว

ปัญหาจากความเป็น “แอนิเมชันอันเป็นที่รัก” ยังคงเป็นกรอบตีตราให้หนังดิสนีย์ไลฟ์แอ็กชันแทบทุกเรื่องทั้ง The Jungle Book, Beauty and The Beast หรือ Cinderella มาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะหากผู้กำกับไม่กล้าบ้าบิ่นแบบกาย ริชชี ที่เลือกดัดแปลงแก้ให้ Aladdin กลายเป็นนิทานอาหรับราตรีฉบับพังค์ ฮิปฮอป จนสำเร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็คงจะต้องเลือกดัดแปลง Maleficent

แต่แล้ว The Lion King กลับเลือกจะเพลย์เซฟ ด้วยการอิงบทดั้งเดิมของเจฟ นาธานสัน และเบรนดา แชปแมน แบบแทบทุกกระเบียดนิ้ว ลามไปยันงานภาพที่เหมือนกางกระดาษลอกลายจากฉบับการ์ตูนแบบเกือบเฟรมต่อเฟรม โดยชูเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟิกมารังสรรค์ให้ภาพ “ดูมีชีวิต” ขึ้นซึ่งก็กลายเป็นดาบสองคมอย่างช่วยไม่ได้

The Lion King
The Lion King

ในส่วนของเนื้อเรื่องแอดมินมองว่า บางอย่างมันไม่เหมาะที่จะเอามาใส่ใน Live action ก็ดันเอามาใส่จนมันแปร่งๆ คือถ้าอยากจะเอามาใส่ควรจะปรับให้เข้ากันมากกว่านี้ อีกทั้งด้วยความที่เคารพต้นฉบับสุดๆ เราแทบไม่ต้องลุ้นว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะในจุดนี้เราก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว เพราะหนังไม่ได้เพิ่มเติมจากของเดิมมากนัก แถมมันค่อนข้างแย่กว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะสเน่ห์ของเนื้อเรื่องมันอยู่ที่การแสดงของสัตว์ด้วยแต่ด้วยความที่มันสมจริงมากๆ อีกทั้งมิติของตัวละครหลายๆ ตัวก็แบนราบมากๆ จนเราไม่อินกับมันเลยสักนิดเดียว

ก่อนจะพูดถึงเหล่าดารานักพากย์ สิ่งหนึ่งที่เราต้องตระหนักคือคราวนี้ จอห์น แฟฟโรว์เลือกให้นักแสดง “แสดง” เป็นตัวละครและพยายามออกแบบการทำงานให้เหมือนพวกเขาได้สวมบทบาทกันจริงๆ ดังนั้นวิธีคิดจะต่างจากการ “พากย์” ที่ต้องให้จังหวะ น้ำเสียงและการแบ่งคำต้องตรงกับแอนิเมชันที่ถูกตัดต่อมาแล้ว เริ่มและหยุด เน้นคำให้หนักตามปากตัวละคร และผลลัพธ์คงต้องพูดตรงๆว่า หลายฉากดูไม่จืดทีเดียว เพราะในขณะที่นักแสดงถ่ายทอดอารมณ์สมจริงตามตัวละครแต่ “ตัวละครที่ดูสมจริง” กลับให้ภาพแค่พะงาบๆ ปากเปิดปิดเฉยๆ จนเสียงกับสีหน้าตัวละครไม่สัมพันธ์กัน

The Lion King
The Lion King

แม้กระทั่ง เจมส์ เอิร์ล โจนส์ ที่กลับมาพากย์มูฟาซ่า เราก็ยังไม่รู้สึกถึงความเมตตาหรือความรักต่อลูกที่หนักแน่นดังหินผาเหมือนฉบับแอนิเมชันนัก ซึ่งวิธีการนี้มันพอไปรอดกับฉากคอเมดี้ทั้ง ซิมบ้า นาล่า ตอนเป็นสิงโตน้อย และ พุมบ้า กับ ทีโบน ที่อาศัยบุคลิกตลกๆ ของหมูป่ากับเมียร์แคตแล้วเสริมด้วยเสียงพากย์จากดาราตลกเข้าไปได้อย่างไม่สะดุดเท่าใดนัก

แต่รอยด่างพร้อยที่สุดของงานพากย์คงหนีไม่พ้นตัวละคร สกา จริงอยู่ว่า ชิเวเทล เอจิโอฟอร์ อาจเคยเล่นเป็นผู้ร้ายมาบ้าง แต่กลับ สกา ที่เสียงของ เจเรมี ไออ้อน ยังคงดังกังวาลในความทรงจำของผม เสียงทุ้มต่ำของ ชวีเทล เลยกลายเป็นโทนต่ำชวนง่วงและไม่นำพาอารมณ์ร่วมไปอย่างน่าเสียดาย

และอีกองค์ประกอบที่หลายคนจับตามองคืองานเพลงประกอบหนัง สำหรับดนตรีประกอบของฮานส์ ซิมเมอร์ ก็ยังสามารถกินบุญเก่า บวกปรับปรุงให้อลังการขึ้นเอาตัวรอดได้สบาย แต่กับงานออกแบบ-ตีความเพลงประกอบหนังใหม่ของฟาเรล วิลเลียม ที่โดยส่วนตัวก็ถือว่ารับเผือกร้อนไม่ต่างจากจอห์น แฟฟโรว์ ผู้กำกับหนังต่างหากที่เหมือนแต่ละเพลงผ่านไปก็โดนคนดูตัดเกรดไปเรื่อยๆ ซึ่งสำหรับเพลง Circle of Life อันนี้คือแทบเหมือนเดิมก็ยังไม่เลวร้ายนัก

รวมถึงเพลง Hakuna Matata ก็ยังเอาตัวรอดได้ด้วยเสน่ห์ของนักพากย์ที่ร้องได้มีสีสัน แต่จุดผิดพลาดแบบให้อภัยไม่ได้ของ ฟาเรล วิลเลียม จริงๆคือการเลือกขลิปเพลง Be Prepare ของ สกา ออก ไม่แน่ใจว่าเพราะ ชิเวเทล เอจิโอฟอร์ร้องไม่ได้หรืออย่างไร แต่ความสำคัญของมันหนักหนามากหากใครได้ดูเวอร์ชันต้นฉบับที่เจเรมี ไอออน ร้องไว้ เพราะมันสื่อถึงความเจ้าเล่ห์ความทะเยอทะยานของสกาได้อย่างหมดจดและทำให้เราเข้าใจว่าทำไมสกาถึงเจ็บแค้นมูฟาซามาก ซึ่งการเลือกขลิปเพลงให้สั้นเลยทำให้สารตรงนี้ไม่ออกและทำให้การลอบปลงพระชนม์มูฟาซาของสกาเป็นเพียงความทะเยอทะยานเท่านั้นเอง

และแน่นอนเพลง Can You Feel The Love Tonight ที่ของเดิมขึ้นแท่นเพลงประกอบภาพยนตร์สุดโรแมนติกก็กลับมาในฉบับ R&B ซึ่งยอมรับว่าไพเราะน่าฟังนะครับ แต่พอมาประกอบกับภาพหนังกลับรู้สึกว่าไม่เข้ากัน การเอื้อนของทั้ง บียอนเซ่ และ โดนัลด์ โกลเวอร์ กลับทำให้ไม่รู้สึกเหมือนตัวละครกำลังร้อง มันเลยกลายเป็น มิวสิกวีดีโอ ของ บียอนเซ่ และ ไชล์ดิช แกมบีโน่ ที่มีภาพจาก The Lion King ไปประกอบเสียมากกว่า

โดยรวมแล้วเราให้คะแนะ 8/10 มาพูดพร้อมกันกับ DooDiDo ว่า .. ฮาคูน่า มาทาท่า! แล้วไปสนุกกับเหล่าตัวละครอันเป็นที่รักของ The Lion King กันทั้งครอบครัวกันดีกว่า

ติดตามข่าวสารทั่วโลกทาง DooDiDo.com อัพเดตก่อนใครทุกวัน

แหล่งที่มา : www.beartai.com, pantip.com